Ray Ban จากแว่นตานักบินสู่แฟชั่นไอคอน ตำนานที่ไม่เคยหลุดเทรนด์

"Years pass, trends change, but Ray-Ban remains"

ตั้งแต่ในจอภาพยนตร์ จนถึงท้องถนน Ray-Ban เป็นที่รู้จัก เพราะถูกเลือกโดยคนดัง และผู้ทรงอิทธิพลทางวัฒนธรรมในแต่ละยุค ในทุกช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ จะมีแว่น Ray-Ban อยู่ในภาพเสมอ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน Ray-Ban ยังคงเติบโตไปพร้อมกับ สไตล์ของคนรุ่นใหม่

จุดเริ่มต้นของ Ray-Ban

ในปี 1929 ทางกองทัพสหรัฐ ร่วมมือกับบริษัท Bausch & Lomb ในการคิดค้นเลนส์ที่ช่วยป้องกันดวงตาให้แก่นักบิน ที่ต้องทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่ำ และต้องเผชิญแสงจ้า จากดวงอาทิตย์

ระยะเวลากว่า 7 ปี ในที่สุด ปี 1936 บริษัทก็ได้เปิดตัวเลนส์สีเขียว ที่มีสารเคลือบกันแสงสะท้อน (G-15 lenses) แว่นกันแดดรุ่นนี้ มีชื่อว่า Ray-Ban Aviator และนั่นคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ในตำนาน

Fun Fact:  ชื่อแบรนด์ Ray-Ban สามารถแปลความหมายได้เป็น

"Ray" = รังสี (เช่น รังสีจากแสงแดด)
"Ban" = ป้องกัน / ขจัด / ห้าม
ดังนั้น Ray-Ban จึงหมายถึง ป้องกันรังสี หรือ ขจัดแสงจ้า ซึ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์หลัก ของแว่นกันแดดแบรนด์นี้ คือช่วยป้องกันแสงแดดจ้า และรังสีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา 

ไม่เพียงแค่ได้รับความนิยมในหมู่นักบิน Ray-Ban ได้ขยายความนิยมไปยัง กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักล่าสัตว์ นักตกปลา รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง 

ในปี 1938 Ray-Ban เปิดตัวแว่นกันแดดรุ่นใหม่ ได้แก่ รุ่น Shooter และ Outdoorsman ในปี 1939  เป็นการผสานระหว่างแฟชั่น และการใช้งานได้จริง

Ray-Ban Shooter; ช่องวงกลมตรงกลาง ออกแบบมาเพื่อไว้สำหรับเก็บบุหรี่  และสะพานคิ้วหนาด้านบน ออกแบบไว้สำหรับกันเหงื่อ

Ray-Ban Outdoorsman; จุดเด่นที่ปลายขาโอบรับไปกับใบหูผู้สวมใส่

จากแว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อทหาร สู่แว่นตาแฟชั่นที่ใครๆ ก็ใส่ได้ทุกวัน

ในช่วงยุค 1950s มีการเข้ามาของวัสดุใหม่ๆ Ray-Ban ได้เปลี่ยนจากการออกแบบแว่นตาเพื่อใช้งานทางทหาร มาเป็นแฟชั่นสำหรับชีวิตประจำวันมากขึ้น

เทรนด์แฟชั่นในยุค 1950s แว่นตาได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องประดับ ประกอบกับภาวะสังคมช่วงหลังสงครามโลก แนวการออกแบบจะเน้นไปที่ความสนุกสนาน อยากทดลอง 

Ray-Ban ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาเป็น แว่นตารุ่น Wayfarer ซึ่งกลายมาเป็นแว่นตารุ่นไอคอนิกของแบรนด์ มาจนถึงปัจจุบัน

Fun Fact: แว่นตารุ่น Wayfarer รูปทรงแว่น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้ายรถยนต์ Cadillac ในยุค 1950

เทคโนโลยีด้านเลนส์ที่โดดเด่น ทำให้ Ray-Ban ก้าวเข้าสู่วงการกีฬาในยุค 70s

ช่วงยุค 1970s Ray-Ban โดดเด่นขึ้นจากเลนส์กันแดด Mirror, เลนส์ปรับแสงอัตโนมัติ รวมไปถึงเลนส์ย้อมสีพิเศษต่างๆ เช่น เลนส์ Ambermatic ซึ่งช่วยให้การมองเห็นสีชัดเจนขึ้น ในสภาวะแสงน้อย 

เทคโนโลยีเลนส์เหล่านี้ ทำให้ Ray-Ban ได้รับความนิยมในหมู่นักกีฬาสกี และนักปีนเขา

การเดินทางของ Ray-Ban ในกระแส Pop Culture 

ยุค 1980s Ray-Ban กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านสื่อหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่มีอิทธิพลอย่างมาก ทั้งนักแสดงชื่อดัง และบุคคลมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงต่างก็เลือกสวมแว่นตา Ray-Ban จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเท่ และสไตล์ในยุคนั้น

ปี 1986 Ray-Ban เปิดตัวแว่นตารุ่น Clubmaster ซึ่งชื่อนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก คลับในยุค 80 และในปี 1989 ได้เปิดตัวแว่นตารุ่น Round Metal 

Ray-Ban กับการก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ พร้อมกับนวัตกรรมใหม่

ปี 2000 Ray-Ban เปิดศตวรรษใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเปิดตัวแว่นสายตา (Optical) และแว่นตารุ่นสำหรับเด็ก (Junior) เป็นครั้งแรก โดยยังคงจิตวิญญาณของผู้บุกเบิกไว้อย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้การดูแลของ Luxottica Group

ปี 2010 Ray-Ban ได้นำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะตัวในยุคของการเซลฟี่ ด้วยการเปิดตัว Remix แว่นรุ่นแรกที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้ พร้อมกันนั้นยังได้เปิดตัว Studios ศูนย์สร้างสรรค์ไอเดียของแบรนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ร่วมงานกับศิลปินดนตรีที่มีสไตล์ที่สุดในยุคนั้น

Ray-Ban กรอบแว่นตาคลาสสิก ที่พัฒนาไปพร้อมกับโลก

ปี 2023 Ray-Ban ก้าวข้ามขีดจำกัดการใช้งานแว่นตาแบบเดิมๆ ด้วยการใส่เทคโนโลยีใหม่ ลงไปในแว่นตาทรงคลาสสิคดั้งเดิมของแบรนด์ 

Ray-Ban Reverse แว่นกันแดดที่มีดีไซน์เลนส์เว้า กลับด้านจากกันแดดรุ่นดั้งเดิม (inverted lenses) ทำให้ได้แว่นตาดีไซน์ใหม่ ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนที่ด้านหลังเลนส์ เพื่อลดแสงจ้าที่จะเข้าสู่ดวงตา แว่นกันแดดคอลเลคชั่นนี้จึงได้ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชันในตัว 

 แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta AI เกิดจากความร่วมมือของ Meta และ EssilorLuxottica ในการผลิตแว่นตาที่มีกล้อง และไมโครโฟนในตัว รองรับการถ่ายทอดสดไปยัง Facebook และ Instagram ได้ทันที

ไม่เพียงแค่ผลิตแว่นตาเท่านั้น แต่ยังสร้างความเคลื่อนไหวทางสังคม ผ่านการออกแบบแว่นตา และยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป 

 Ray-Ban จึงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าท้าทาย การก้าวข้ามขีดจำกัด และการสร้างเส้นทางในแบบของตัวเอง

ร้านแว่นตา GOOD VISION ศูนย์โปรเกรสซีฟเลนส์ ร้านแว่นตามืออาชีพ บริการตรวจวัดสายตาโดยนักทัศนมาตร ที่อยู่ตลอดเวลาการทำการทั้งสองสาขา (ร้านแว่นตาเชียงใหม่ , ร้านแว่นตาลำพูน) เพื่อให้ลูกค้าได้แว่นตาตอบโจทย์ความต้องการ และช่วยแก้ปัญหาสายตาได้จริง

บทความโดย โย จุฬารัตน์ O.D. (Doctor of Optometry) 
นักทัศนมาตร ประจำร้านแว่นตา กู๊ด วิชั่น

ที่มา 
Titov, A. (n.d.). Ray-Ban Logo and symbol, meaning, history, PNG, brand. https://1000logos.net/ray-ban-logo/
Ray-Ban Glasses History. (n.d.). Ray-Ban. Retrieved August 31, 2025, from https://www.ray-ban.com/usa/ray-ban-glasses-history